การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer Screening)
มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงวัย 30-55 ปี มากกว่า 90% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV หรือ Human Papilloma virus ที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่ที่เป็นสาเหตุหลัก คือสายพันธุ์ 16 และ18 การติดเชื้อ HPV ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เซลล์บริเวณปากมดลูกพัฒนากลายเป็นเซลล์มะเร็งได้
ปัจุบันประเทศไทยสามารถตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ 3 วิธีได้แก่
- การตรวจทางเซลล์วิทยา หรือ PAP test เป็นการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์บริเวณปากมดลูก
- การตรวจหาเชื้อ HPV ซึ่งสามารถทำได้ทั้งกรณีการตรวจหาเชื้อ HPV เพียงอย่างเดียว (Primary HPV testing) หรือการตรวจเชื้อ HPV ร่วมกับการตรวจทางเซลล์วิทยาปากมดลูก (Co-testing)
- การตรวจด้วยน้ำส้มสายชู (Visual inspection with acetic acid, VIA) ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยม เนื่องจากมีความแม่นยำต่ำ และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ
ใครบ้างที่ควรการตรวจหาเชื้อ HPV
ตามคำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society : ACS, 2020) ฉบับปรับปรุงล่าสุด
ใครบ้างที่ควรการตรวจหาเชื้อ HPV
ตามคำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society : ACS, 2020) ฉบับปรับปรุงล่าสุด
การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV จากปัสสาวะ
เทคนิคใหม่ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะ ทางเลือกสำหรับสตรีที่กลัว และเขินอายการตรวจภายใน
Coli-Pee® คือ ชุดเก็บปัสสาวะเพื่อใช้่ในการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ ที่ได้รับการยอมรับและได้มาตรฐาน (ISO13485)
Coli-Pee® ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจ เมื่อเปรียบเทียบกับการเก็บปัสสาวะด้วยถ้วยเก็บปัสสาวะทั่วไป
Coli-Pee® ออกแบบให้ใช้ควบคู่กับ Urine Conservation Medium (UCM) เพื่อช่วยคงสภาพ Protein และ DNA ในปัสสาวะได้ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ที่อุณหภูมิห้อง


ใช้ง่าย
สะดวก

เก็บตัวอย่างได้เองที่บ้าน

ผ่านการรับรอง
ความปลอดภัย

เป็นมิตรกับผู้ใช้

ใช้ได้ทั้งเพศหญิง
และชาย
แพ็คเกจการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

*HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง 14 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 16, 18, 31, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66 and 68
**HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง 18 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 68, 73, 82,26, 53 and 66