Human Papillomavirus (HPV) เป็นไวรัสที่แพร่เชื้อผ่านการสัมผัสทางผิวหนังและการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น หูดที่อวัยวะเพศ และมะเร็งปากมดลูก การตรวจหาเชื้อ HPV โดยทั่วไปที่เรารู้จักกันดีคือ ทำได้โดยการตรวจเซลล์จากปากมดลูก อย่างไรก็ตาม มีการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะ ซึ่งเป็นวิธีที่ใหม่และมีความสะดวกสบายมากขึ้น

คุณคิดว่าได้รับเชื้อ HPV แล้วหรือยัง?
คนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วมีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV มากถึง 80% ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ซึ่งเชื้อไวรัส HPV มีโอาสติดได้ทุกเพศ ทุกวัย เพราะในผู้ชายที่ได้รับเชื้อไวรัส HPV ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งอวัยวะเพศได้เช่นกัน การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV จึงจำเป็นเพราะสามารถรู้โอกาสเสี่ยงของโรคมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อรู้เร็ว สามารถรักษาได้

การตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคการตรวจทางโมเลกุล เช่น การทดสอบ PCR (Polymerase Chain Reaction) ซึ่งสามารถตรวจหา DNA ของเชื้อ HPV ในปัสสาวะได้

นอกจากการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะจะมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งและยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น
1. ความสะดวกสบาย: การเก็บตัวอย่างปัสสาวะทำได้ง่ายและไม่ต้องการอุปกรณ์พิเศษ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น
2. ความเป็นส่วนตัว: การตรวจจากปัสสาวะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเก็บตัวอย่างเองที่บ้านและส่งตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการ ลดความอายและความไม่สะดวกในการตรวจที่สถานพยาบาล
3. การเข้าถึงง่าย: การตรวจจากปัสสาวะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำกัด

จากบทความนี้จะเห็นได้ว่า การตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะเป็นวิธีที่สะดวกและไม่ต้องการการเก็บตัวอย่างที่ซับซ้อน และช่วยเพิ่มการเข้าถึงการตรวจคัดกรองเชื้อ HPV และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางเลือกใหม่ ตรวจหาเชื้อ HPV ด้วยตัวเองจากปัสสาวะ มีประสิทธิภาพแม่นยำเทียบเท่าการตรวจโดยแพทย์  “ง่าย สะดวก ประสิทธิภาพเทียบเท่าการตรวจภายใน”

เราจึงอยากแนะนำการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะ ด้วยชุดเก็บตัวอย่าง Colli-Pee เป็นเทคนิคใหม่ในการเก็บตัวอย่าง เพื่อส่งไปตรวจหาเชื้อ HPV ใน อุปกรณ์ในการเก็บตัวอย่างนี้เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศเบลเยี่ยม ได้รับรองมาตรฐาน ISO13485 และผ่านการรับรองความปลอดภัยเครื่องมือแพทย์ เพราะเราเห็นถึงความสำคัญที่ทุกคนควรตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีและการป้องกันโรคในอนาคต

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.bccgroup-thailand.com/cervical-cancer-screening

แหล่งที่มา
1.Pathak, N., Dodds, J., Zamora, J., & Khan, K. (2014). Accuracy of urinary human papillomavirus testing for presence of cervical HPV: systematic review and meta-analysis. BMJ, 349, g5264.
2.Vorsters, A., Van Keer, S., Biesmans, S., Hens, A., De Coster, I., Goossens, H., & Van Damme, P. (2016). Long-term follow-up of HPV infection using urine and cervical quantitative HPV DNA testing. International Journal of Molecular Sciences, 17(5), 750.
3.Khan, M. J., Castle, P. E., Lorincz, A. T., Wacholder, S., Sherman, M., Scott, D. R., … & Schiffman, M. (2005). The elevated 10-year risk of cervical precancer and cancer in women with human papillomavirus (HPV) type 16 or 18 and the possible utility of type-specific HPV testing in clinical practice. Journal of the National Cancer Institute, 97(14), 1072-1079.