ORA™ TEST การตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก ก่อนย้ายตัวอ่อน เพิ่มโอกาสติดเบบี๋

October 22, 2024

หากคู่รักพยายามที่จะตั้งครรภ์มาได้สักพักแต่ยังคงล้มเหลว ไม่เพียงขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่และตัวอ่อนเท่านั้น อาจมีสาเหตุมาจาก “ช่วงเวลาความพร้อมของมดลูก” ที่ไม่ตอบสนองต่อการฝังตัวของตัวอ่อน หากเยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมต่อการฝังตัว ความพยายามในการทำ IVF อาจไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการทดสอบความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกจึงเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ใช้ในการตรวจสอบความพร้อมนี้ เรียกว่า ORA™ (Endometrial Receptivity Analysis) ซึ่งจะช่วยแพทย์ระบุ “ช่วงเวลาที่เหมาะสม” (Window of Implantation: WOI) สำหรับการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก ซึ่งเพิ่มโอกาสให้ตัวอ่อนฝังตัวและนำไปสู่การตั้งครรภ์ที่สำเร็จ

ORA™ TEST คืออะไร?
ORA™ (Endometrial Receptivity Analysis) เป็นการทดสอบทางพันธุกรรม ที่สามารถวิเคราะห์ยีนและการควบคุมยีน ที่เกี่ยวข้องความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อระบุว่า เยื่อบุโพรงมดลูกของผู้ป่วยพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนในช่วงใด การทดสอบนี้ช่วยให้แพทย์สามารถปรับเวลาการย้ายตัวอ่อน (embryo transfer) ให้ตรงกับช่วงเวลาที่เยื่อบุโพรงมดลูกพร้อมมากที่สุด 

ทำไม ORA™ TEST ถึงสำคัญ?
แม้ตัวอ่อนจะมีคุณภาพดี การย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้การฝังตัวล้มเหลว การตรวจ ORA™ จะช่วยให้แพทย์ทราบว่า ช่วงใดเป็นช่วงที่เยื่อบุโพรงมดลูกของผู้ป่วยมีความพร้อมสูงสุด ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยเคยประสบความล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ลองวิธีทางธรรมชาติมานานแต่ยังไม่มีบุตร รวมถึงผู้ที่เคยย้ายตัวอ่อนสู่โพรงมดลูกมาก่อนแต่ไม่สำเร็จ หรือมีตัวอ่อนที่ดีแต่ไม่สามารถฝังตัวได้

ขั้นตอนการทำ ORA™ TEST
1. การจำลองรอบการย้ายตัวอ่อน (Mock Cycle): ผู้ป่วยจะได้รับการจำลองรอบการย้ายตัวอ่อนเช่นเดียวกับการทำ IVF โดยใช้ยาและฮอร์โมนเพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกให้พร้อม แต่ในขั้นนี้จะไม่มีการย้ายตัวอ่อนใดๆ แต่จะมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปตรวจ เพื่อหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการย้ายตัวอ่อนเท่านั้น หรืออีกวิธีหนึ่ง คือการเก็บตัวอย่างเลือดไปก่อนพร้อมๆ กันกับการย้ายตัวอ่อนในครั้งแรก หากไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ จึงจะนำตัวอย่างเลือดที่เก็บไว้มาวิเคราะห์ ก่อนการย้ายตัวอ่อนจริงอีกครั้ง ซึ่งการออกแบบว่าจะใช้วิธีการใด ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษา
2. การวิเคราะห์ทางพันธุกรรม: ตัวอย่างเลือดจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อวิเคราะห์ระดับยีนที่เกี่ยวข้องกับความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก ห้องปฏิบัติการจะตรวจสอบยีนหลายร้อยตัว เพื่อดูว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อนคือเมื่อใด
3. การกำหนด WOI: ผลการทดสอบจะบอกว่า เยื่อบุโพรงมดลูกของผู้ป่วยพร้อมสำหรับการฝังตัวในช่วงเวลาใด แพทย์จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อวางแผนการย้ายตัวอ่อนให้ตรงกับช่วงเวลาที่เยื่อบุโพรงมดลูกมีความพร้อมสูงสุด

ใครบ้างที่เหมาะสมในการตรวจ ORA™ TEST ?
การทดสอบ ORA™ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่:
🔹เคยล้มเหลวจากการย้ายตัวอ่อนแม้ตัวอ่อนจะมีคุณภาพดี มีผนังมดลูกปกติแต่ก็ยังไม่ตั้งครรภ์
🔹คนที่มีปัญหาเรื่องการฝังตัวของตัวอ่อน
🔹คนที่มีตัวอ่อนน้อย ทำให้ต้องมีการวางแผนอย่างดีที่สุด เพื่อใช้ตัวอ่อนอย่างคุ้มค่า
🔹ต้องการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นในรอบ IVF ต่อไป

ประโยชน์ของ ORA™ TEST
1. เพิ่มโอกาสความสำเร็จ: การทดสอบ ORA™ ช่วยให้แพทย์สามารถปรับเวลาการย้ายตัวอ่อนให้ตรงกับช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ตัวอ่อนฝังตัวได้สำเร็จ
2. ลดการทำ IVF รอบใหม่: ผู้ป่วยที่เคยล้มเหลวจากการทำ IVF หลายรอบ สามารถลดความเสี่ยงจากความล้มเหลวในรอบถัดไปได้ ด้วยการใช้ข้อมูลจากการทดสอบ ORA™
3. การปรับการรักษาให้เป็นรายบุคคล: เนื่องจากเยื่อบุโพรงมดลูกของแต่ละคนอาจมีช่วงเวลาที่พร้อมต่างกัน ORA™ ช่วยให้การรักษาเป็นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น แพทย์สามารถวางแผนการรักษา โดยอ้างอิงจากข้อมูลของผู้ป่วยแต่ละราย
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา : เนื่องจากสามารถหลีกเลี่ยงการฝังตัวอ่อนในช่วงที่ผนังมดลูกไม่พร้อม

ดังนั้น ORA™ (Endometrial Receptivity Analysis) ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำ IVF มีความแม่นยำมากขึ้น โดยการวิเคราะห์ความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก และระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อน การทดสอบนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สำเร็จ โดยเฉพาะผู้ที่เคยล้มเหลวจากการฝังตัวของตัวอ่อนหลายครั้ง การทำ ORA™ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การรักษาภาวะมีบุตรยาก ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จากการเลือกเวลาย้ายตัวอ่อนที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาภาวะมีบุตรยากและกำลังมองหาวิธีการเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการทำ IVF การทดสอบ ORA อาจเป็นคำตอบที่คุณต้องการ

ทั้งนี้ การใส่ตัวอ่อนตามคำแนะนำหลังจากการทำ ORA™ TEST ว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นแนวทางที่ช่วยการันตีว่า จะสามารถตั้งครรภ์ได้ 100% แต่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ตั้งครรภ์ได้สำเร็จมากขึ้นอย่างแน่นอน

รายละเอียดเพิ่มเติม ORA™ TEST : https://www.bccgroup-thailand.com/bcc-service/ora-non-invasive-endometrial-receptivity-test

Contact Us

วัน - เวลาทำการ : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.

BCC GROUP THAILAND
บริษัท บางกอก ไซโตเจเนติกซ์ เซ็นเตอร์ จำกัด
บริษัท บีซีซี เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด

65/17-18 ซอยวิภาวดีรังสิต 16/6 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900

โทรศัพท์ : 02-690-0063, 086-306-2084 090-907-4230

แฟกซ์ : 02-690-0064

อีเมล : info@bccgroup-thailand.com

แผนผังเว็บไซต์