BCC GROUP THAILAND

“ STIs ” ย่อมาจาก Sexually Transmitted Infections คือ “ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ” ซึ่งเกิดจากการเชื้อแบคทีเรียไวรัส ปรสิตและราชนิดต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย สามารถตรวจหาเชื้อได้ สูงถึง 14 ชนิด โดยส่วนใหญ่เชื้อเหล่านี้จะติดต่อผ่านการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก ตัวอย่างของโรค ได้แก่ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม และเริม เป็นต้น

STIs ไม่ได้ติดต่อแค่จากการสอดใส่ !

หลายคนเข้าใจผิดว่า STIs ติดต่อเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่เท่านั้น แต่ความจริงคือเชื้อโรคเหล่านี้สามารถแพร่กระจายได้หลายช่องทาง :

fiber_manual_record การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันทั้งทางช่องคลอด ทวารหนักและทางปาก หากไม่ได้สวมถุงยางอนามัยหรือใช้อย่างไม่ถูกวิธี
fiber_manual_record การทำ Oral sex หรือสัมผัสอวัยวะเพศด้วยปาก หลายโรค เช่น เริม ซิฟิลิส และหนองใน สามารถติดต่อผ่านทางปากได้แม้ไม่มีการสอดใส่
fiber_manual_record การสัมผัสสารคัดหลั่ง เลือด หรือแผลของผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะหากมีบาดแผลเล็ก ๆ ที่ไม่เห็นด้วยตาเปล่า
fiber_manual_record จากแม่สู่ลูก บางโรค เช่น HIV, ซิฟิลิส และเริม สามารถส่งผ่านจากแม่สู่ลูกในระหว่างตั้งครรภ์ คลอด หรือให้นมบุตร
fiber_manual_record การใช้เข็มหรือของมีคมร่วมกัน เช่น เข็มฉีดยา หรือเครื่องมือที่ปนเปื้อนเลือด

ใครที่ต้องตรวจ STIs

ผู้ที่มีความเสี่ยง ที่ควรเข้ารับการตรวจ STIs Test มีดังนี้

fiber_manual_record เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และมีเพศสัมพันธ์บนความเสี่ยง
fiber_manual_record เพศสัมพันธ์ในขณะที่ยังมีอายุน้อย
fiber_manual_record เคยมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
fiber_manual_record ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับหญิงหรือชายขายบริการทางเพศโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
fiber_manual_record ถุงยางอนามัยรั่ว ถุงยางอนามัยแตก หลุด ฉีกขาดขณะมีเพศสัมพันธ์
fiber_manual_record ผู้ที่กำลังวางแผนจะแต่งงาน หรือมีบุตร ก็ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นกันเพื่อป้องกันเชื้อแพร่สู่คู่รักและลูก

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 14 รายการ

โรคติดเชื้อแบคทีเรีย

โรคติดเชื้อไวรัส

โรคติดเชื้อปรสิตและเชื้อรา

ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ

fiber_manual_record สิ่งส่งตรวจจากการ swab บริเวณที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น ช่องคลอด ทวารหนัก เป็นต้น ด้วยหัตถการของแพทย์

fiber_manual_record สิ่งส่งตรวจจากปัสสาวะ ด้วยกระปุกเก็บปัสสาวะ ปริมาณ 8-10 มิลลิลิตร ควรเป็นการปัสสาวะที่ห่างจากครั้งก่อน อย่างน้อย 1 ชม. และไม่ต้องทำความสะอาดอวัยวะเพศก่อนการปัสสาวะ

แนวทางการดูแลตนเองและคำแนะนำที่สำคัญ

fiber_manual_record ปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อสงสัยหรือมีอาการ หากมีอาการผิดปกติหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

fiber_manual_record รักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด กินยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง แม้ว่าอาการ จะดีขึ้นแล้วก็ตาม

fiber_manual_record พาคู่นอนไปรักษาด้วยเสมอ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่สามารถแพร่จากคนหนึ่ง ไปอีกคนหนึ่งได้ การรักษาคู่นอนร่วมด้วยจะช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำไปซ้ำมาได้

fiber_manual_record งดมีเพศสัมพันธ์ระหว่างการรักษา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่

fiber_manual_record ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นี่เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในการลด ความเสี่ยงของการติดเชื้อ STD

fiber_manual_record เปิดใจและสื่อสารกับคู่นอน การพูดคุยเรื่องสุขภาพทางเพศและประวัติการตรวจ STD อย่างตรงไปตรงมา เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีและปลอดภัยทั้งสองฝ่าย

Contact Us

Call center

02-960-0063,086-306-2084

E-mail

info@bccgroup-thailand.com

Line

@panorama.nipt

Facebook

Bangkok Cytogenetics Center, Panorama NIPT Thailand

วัน - เวลาทำการ : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 - 17.30 น.

บริษัท บางกอก ไซโตเจเนติกซ์ เซ็นเตอร์ จำกัด

บริษัท บีซีซี เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด

65/17-18 ซอยวิภาวดีรังสิต 16/6 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900

โทรศัพท์ : 02-690-0063, 086-306-2084 090-907-4230

แฟกซ์ : 02-690-0064

อีเมล : info@bccgroup-thailand.com

STIs ไม่ได้ติดต่อแค่จากการสอดใส่ !

fiber_manual_record การสัมผัสสารคัดหลั่ง เลือด หรือแผลของผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะหากมีบาดแผลเล็ก ๆ ที่ไม่เห็นด้วยตาเปล่า

fiber_manual_record การใช้เข็มหรือของมีคมร่วมกัน เช่น เข็มฉีดยา หรือเครื่องมือที่ปนเปื้อนเลือด